มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานของสภามวยโลก ได้ออกมาปฎิเสธแนวคิดที่ว่าทาง สภามวยโลกได้ปกป้องทาง ซาอูล คาเนโล่ อัลวาเรซ ในกรณีที่เขาถูกตรวจพบสารต้องห้ามในร่างกายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การชกระหว่าง เกนเนดี้ โกลอฟกิ้น และ ซาอูล อัลวาเรซ จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ และปัญหาก็เกิดขึ้นจากการถูกตรวจพบสารต้องห้ามของ ซาอูล อัลวาเรซ ซึ่งทางทีมงานของ ซาอูล อัลวาเรซ ได้ให้เหตุผลว่าได้รับสารดังกล่าวมาจากเนื้อสัตว์ที่ทานเข้าไป
และสิ่งที่เป็นคำถามที่แฟนมวยหลายๆกลุ่มได้ตั้งไว้ให้กับทาง สภามวยโลก ก็คือการปฎิบัติต่อ ซาอูล อัลวาเรซ ของสภามวยโลกหลังจากที่เจอสารต้องห้ามดูและจะนุ่มนวลมากเมื่อเทียบกับทาง หลุยส์ ออร์ติซ หรือ อเล็กซานเดอร์ โพเวทกิ้น ที่เคยถูกตรวจพบสารต้องห้ามจนเสียโอกาสในการชิงแชมป์โลกไป
"คาเนโล่ ได้ลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการตรวจสารต้องห้ามด้วยความสมัครใจกับ VADA มากว่า 5 ปี และเราเห็นความจริงที่ว่าเขายังไม่เคยถูกตรวจพบสารต้องห้ามในร่างกายเลย
"การแข่งขันกีฬาในระดับสูง เขาต้องมีทีมที่เป็นมืออาชีพทำงานอยู่เบื้องหลัง แต่คุณควรจะมองในแง่มุมของคนทั่วไปด้วย เขาอยู่ที่เม็กซิโก ทำหลายๆอย่างที่นั้น มัน(สารต้องห้าม)อาจจะเป็นผลมาจากอาหารสักอย่าง สเต๊ก หรือไม่ก็ทาโก้
"ผมไม่ได้พยายามจะปกป้อง คาเนโล่ เชื่อผมเถอะ แต่เราต้องเป็นกลาง เรามีความเป็นธรรม และความถูกต้องต้องเหนือว่าอื่นใด" มัวริซิโอ สุไลมาน กล่าว
สารต้องห้ามที่เจอในกาตรวจของ ซาอูล อัลวาเรซ ก็คือ เคลนบูเทอรอล ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการเร่งสีเนื้อสัตว์รวมถึงการลดน้ำหนักได้ ซึ่งในหลายๆครั้งเราจะเห็นทาง ซาอูล อัลวาเรซ สามารถทำน้ำหนักไปชกที่รุ่น 154 ปอนด์ ได้ทั้งๆที่ร่างกายของเขานั้นค่อนข้างใหญ่เกิดกว่ามาตรฐานรุ่นนั้น ทำให้หลายๆฝ่ายจึงแคลงใจถึง เคลนบูเทอรอล ที่ถูกตรวจพบว่าได้รับมาโดยบังเอิญหรือได้รับมาโดยตั้งใจเพื่อจุดประสงค์ในการทำน้ำหนัก