เมื่อปีก่อน กาเบรียล โรซาโด ได้ขึ้นชกกับ ดาเนียล เจคอป ในไฟท์ที่ใครๆต่างก็มองว่าเขาเป็นเพียงนักชกหมดสภาพแล้วแต่ไปขึ้นชกเพื่อสร้างสถิติให้ แดเนียล จาคอป แต่การชกกลับจบลงด้วยผลคะแนนที่ไม่เป็นเอกฉันท์ และหลายๆคนยกมองว่าเขาควรจะเป็นผู้ชนะด้วยซ้ำ
ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กาเบรียล โรซาโด ได้ชกกับ เบคเทเมียร์ เมลิคคูเซียฟ นักไร้พ่ายจากอุสเบกิสถาน และก็เป็นอีกครั้งที่เขาหักปากกาเซียนด้วยการเอาชนะน็อค เบคเทเมียร์ เมลิคคูเซียฟ ไปในยกที่ 3
และในเช้าวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ กาเบรียล โรซาโด ก็มีกำหนดการขึ้นชกกับ ไจเม่ มุนกีอา นักชกไร้พ่าย อดีตแชมป์โลกรุ่น 154 ปอนด์ ที่ในตอนนี้ชกอยู่ที่ 160 ปอนด์ ถ้าชนะ ไจเม่ มุนกีอา ได้เขาก็จะได้โอกาสในการชิงแชมป์โลกเส้นที่ 3 ซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของเขาในอาชีพนี้
ไฟท์นี้เป็นอีกหนึ่งไฟท์ที่เขาถูกมองว่าเป็นรอง แต่ กาเบรียล โรซาโด เชื่อว่าเขามีประสบการณ์ชกที่สูงกว่า ไจเม่ มุนกีอา และมันคือข้อได้เปรียบ
"คุณสามารถสอนสิ่งต่างๆให้คนอื่นได้ แต่คุณไม่สามารถสอนประสบการณ์ได้ ผมรู้สึกว่าผมได้ชกกับนักชกแข็.ๆมาแล้ว ดังนั้นผมมีประสบการณ์อย่างทางฝั่งผม และผมสุขภาพดี แข็งแรง ผมไม่โรยราง ผมแค่ดีขึ้นเรื่อยๆ" กาเบรียล โรซาโด กล่าว
ต้องยอมรับว่าไฟท์ที่ชนะ เบคเทเมียร์ เมลิคคูเซียฟ ทาง กาเบรียล โรซาโด ใช้ประสบการณ์ที่เหนือกว่ามาเป็นข้อได้เปรียบและเอาชนะมาได่ แต่ทาง เบคเทเมียร์ เมลิคคูเซียฟ นั้นเพิ่งจะชกอาชีพแค่ 8 ไฟท์ ในขณะที่ทาง ไจเม่ มุนกีอา นั้นเป็นถึงอดีตแชมป์โลก ณ.จุดนี้คงจะบอกไม่ได้ว่าประสบการณ์ของ กาเบรียล โรซาโด จะเพียงพอที่จะเอามาใช้กับ ไจเม่ มุนกีอา ได้หรือไม่