ในเวลานี้คงจะไม่มีแฟนมวยโลกที่ไม่รู้จัก ดิมิทรี บิวอล แล้วหลังจากที่ปีนี้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะนักชกที่ดีที่สุดของยุคนี้อย่าง ซาอูล อัลวาเรซ เมื่อพฤษภาคมและเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาก็ยังสามารถเอาชนะนักชกไร้ำ่ายอดีตแชมป์โลกรุ่น 168 ปอนด์อย่าง กิลเบอร์โต้ รามิเรซ ได้
สิ่งที่น่าสนใจก็คือไฟท์ต่อไปของ ดิมิทรี บิวอล จะเป็นใคร
หากพูดถึงรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทแล้วคงจะเหลือแค่ อาเธอร์ บิเธอร์บิเยฟ เจ้าของแชมป์โลก WBC, WBO และ IBF เท่านั้นที่จะช่วยยกระดับชื่อเสียงของ ดิมิทรี บิวอล ได้และด้วยความที่ ดิมิทรี บิวอล เป็นซูเปอร์แชมป์โลก WBA การชกกันของ อาเธอร์ บิเธอร์บิเยฟ กับ ดิมิทรี บิวอล ย่อมหมายถึงการรวมแชมป์โลก 4 สถาบันหลักของรุ่น
อย่างไรก็ตามดูเหมือน ดิมิทรี บิวอล จะยังไม่จบเรื่องกับทาง ซาอูล อัลวาเรซ เพราะทางฝั่ง ซาอูล อัลวาเรซ นั้นกล่าวมาตลอดหลังจากพ่ายแพ้ว่าอยากแก้มือ ซึ่งในตอนนี้เริ่มมีการพูดถึงการที่ ดิมิทรี บิวอล อาจจะลดน้ำหนักไปที่ 168 ปอนด์ เพื่อชกรีแมทต์กับ ซาอูล อัลวาเรซ แล้ว
"ผมคงไม่ชอบ แต่เราทำได้ สำหรับแชมป์(รุ่น 168 ปอนด์) 4 เส้น มันน่าสนใจ แต่ต้องจำไว้ว่า ผมอยู่ที่ไลท์เฮฟวี่เวท นี่เป็นรุ่นของผม" ดิมิทรี บิวอล กล่าวถึงการลดน้ำหนักไปชกที่ 168 ปอนด์
การที่ ดิมิทรี บิวอล ยอมลดน้ำหนักไปที่ 168 ปอนด์ เพื่อชกกับ ซาอูล อัลวาเรซ มันจะเป็นการยอมเสียความได้เปรียบเรื่องน้ำหนักปกติแต่ก็จะได้สิทธิ์ในการชิงแชมป์โลกทั้ง 4 เส้นของ ซาอูล อัลวาเรซ มาด้วย
แม้จะชกที่ไลท์เฮฟวี่เวทมาตั้งแต่เริ่มชกอาชีพ แต่ทาง ดิมิทรี บิวอล นั้นเป็นนักชกที่รูปร่างเล็กสำหรับรุ่นนี้ เห็นได้จากไฟท์ล่าสุดที่เขาตัวเล็กกัว กิลเบอร์โต้ รามิเรซ อย่างเห็นได้ชัด การทำน้ำหนักที่ 168 ปอนด์ คงจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
"เมื่อผมชกที่ 75 กิโลกรัม(ประมาณ 168 ปอนด์) การต่อสู้ครั้งแรกของผมคือการทำน้ำหนักและค่อยไปสู้กับคู่ชก ผมตัดสินใจว่าจะไม่ชกที่น้ำหนักนั้น แต่ผมทำงานกับนักโภชนาการแล้วและได้เรียนรู้ถึงการทำน้ำหนัก ก่อนการชั่นน้ำหนักสำหรับไฟท์นี้ ผมก็กิน ผมมีมือเช้าเล็กๆและจากนั้นก็มาที่ตาชั่งเมื่อชั่นน้ำหนัก" ดิมิทรี บิวอล กล่าวเพื่อเติม