อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท กิลเบอร์โต้ รามิเรซ เตรียมขึ้นชกในพิกัดครุยเซอร์เวทกับ อดีตแชมป์โลกรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท โจ สมิธ ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
"ผมพร้อมจะยึดรุ่นครุยเซอร์เวทและพิสูจน์ว่าผมสามารถเพิ่มแชมป์โลกมาในประวัติได้ ผมอยากของคุณแฟนๆ โกลเด้นบอย DAZN, WBA และทีมทั้งหมดของผมที่สนับสนุนผมในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง เราพร้อมจะเจอกับคู่ชกที่หิวกระหาย โจ สมิธ คนที่ควรจะเป็นมวยรองผมรู้ว่าเราทั้งคู่อยากชกกันที่ไลท์เฮฟวี่เวทเมื่อปีก่อน แต่ผมดีใจที่เราได้ทำมันในเวลานี้ เจอกันที่ลาสเวกัส" กิลเบอร์โต้ รามิเรซ กล่าว
"ผมรู้สึกยอดเยี่ยมที่ได้คืนสังเวียนในวันที่ 7 ตุลาคม(ตรงกับ 8 ตุลาคมตามเวลาไทย)ชกกับ รามิเรซ ผมมีเวลาที่ยากลำบากในปีนี้ ที่สำคัญที่สุดผมเสียพี่ชายของผม อเล็ก ไป ผมคิดถึงเขาและรู้ว่าเขาจะอยู่กับผมเมื่อผมเข้าสู่สังเวียน เขามักภูมิใจในตัวผมและเขาจะมีความสุขเมื่อได้เห็นผมกลับมาชก ผมรอที่จะได้แสดงให้โลกเห็นว่า คอมมอนแมน(ฉายาของ โจ สมิธ) กลับมาแล้วและหวังว่าฟอร์มการชกของผมจะสามารถนำความสุขและแรงบัลดาลใจมาให้ครอบครัวผมได้" โจ สมิธ กล่าว
ไฟท์นี้จะเป็นไฟท์แรกของทั้ง กิลเบอร์โต้ รามิเรซ และ โจ สมิธ ในรุ่นครุยเซอร์เวท
ด้วยประวัติการเป็นแชมป์โลก WBO รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท ต้องบอกว่า โจ สมิธ ได้ฝากชื่อไว้ที่รุ่นไลท์เฮฟวี่เวทแล้ว แต่ทาง กิลเบอร์โต้ รามิเรซ นั้นยังไม่เคยคว้าแชมป์โลกที่รุ่นไลท์เฮฟวี่เวทเลย โดนชกในรุ่นนี้ 6 ไฟท์ ชนะไป 5 ไฟท์ ไฟท์ที่ 6 เขาได้โอกาสชิงแชมป์โลกกับ ดิมิทรี บิวอล แต่ก็แพ้ไปแบบสู้ไม่ได้
ในเวลานี้แชมป์โลกสถาบันหลักรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทอยู่ในการครอบครองของ ดิมิทรี บิวอล และ อาเธอร์ เบเธอร์บิเยฟ ซึ่งต้องบอกว่ายังไม่มีแววว่าแชมป์โลกจะเปลี่ยนไปอยู่ในมือของคนอื่นนอกจาก 2 คนนี้ ถ้าต้องการเป็นแชมป์โลกการเปลี่ยนพิกัดอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่รุ่นครุยเซอร์เวทนั้นอยู่เหนือพิกัดที่ กิลเบอร์โต้ รามิเรซ เคยครองแชมป์โลกถึง 2 รุ่นน่าสนใจทีเดียว่าเขาจะรับมือนักชกของรุ่นนี้ได้ดีแค่ไหน