กิลเบอร์โต้ รามิเรซ ตั้งเป้าใช้ โจ สมิธ เป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาเหมาะกับครุยเซอร์เวท

 

ด้วยอายุ 32 ปี ประกอบกับการชกมวยอาชีพมา 14 ปี ธรรมชาติบังคับให้ กิลเบอร์โต้ รามิเรซ ต้องเลื่อนพิกิดขึ้นมาจาก ซูเปอร์มิดเดิลเวทไปที่ไลท์เฮฟวี่เวทและล่าสุดเขาจะขึ้นชกที่ครุยเซอร์เวท

โดยในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ กิลเบอร์โต้ รามิเรซ จะขึ้นชกกับ โจ สมิธ อดีตแชมป์โลกรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท ที่ลาสเวกัส ในพิกัดแคชเวท 190 ปอนด์

"ไฟท์นี้เป็นเครื่องหมายว่าผมได้เลื่อนไปที่ครุยเซอร์เวท การตัดสินใจนี้เป็นความเห็นร่วมกันที่ทีมของผมกับผมตัดสินใจอย่างระมัดระวัง หนึ่งในเหตุผลหลักคือการเติบโตตามธรรมชาติของผมและการเติบโตในฐานะนักกีฬา ผมมีพัฒนาการในการชกอาชีพ ผมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแกร่ง มันทำให้ผมเหมาะจะชกที่ครุยเซอร์เวท

"นอกจากนี้ เราเชื่อว่าการเลื่อนพิกัดครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ได้เจอความท้าทายใหม่และโอกาสใหม่ๆสำหรับผม รุ่นครุยเซอร์เวทเป็นที่รู้กันว่าเป็นแหล่งของการแข่งขันและความสามารถและผมอยากทดสอบทักษะของผมกับคู่ชกที่แตกต่างกัน ผมมั่นใจว่าจะสร้างผลกระทบที่ดีกับพิกัดใหม่ ผมทำงานกับโค๊ชของผมและครูฝึกเพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนพิกัดเป็นไปอย่างราบรื่นในแง่ของการฝึกซ้อมแผนการและการเตรียมตัวทั้งหมด นี่เป็นบทใหม่ของอาชีพผมและผมยอมรับการเปลี่ยนแปลง เฝ้ารอที่จะพิสูจน์ตัวเองที่ครุยเซอร์เวท" กิลเบอร์โต้ รามิเรซ กล่าว

กิลเบอร์โต้ รามิเรซ เป็นอดีตแชมป์โลก WBO รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท เขาสละแชมป์โลกและเลื่อนพิกัดมาชกที่ไลท์เฮฟวี่เวท แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จนักเพราะเขาแพ้ในไฟท์ชิงแชมป์โลกกับ ดิมิทรื บิวอล และเมื่อมีนาคมที่ผ่านมาเขามีกำหนกการชกกับ กาเบียล โรซาโด แต่ไฟท์ถูกยกเลิกไปเพราะ กิลเบอร์โต้ รามิเรซ ทำน้ำหนักไม่ได้

และแทนที่จะหาคู่ชกในครุยเซอร์เวทเพื่อปรับตัวกับพิกัดใหม่ เขาเลือกเอา โจ สมิธ ชายที่เคยเอาชนะ เบอร์นาร์ท ฮอฟกิ้น มาเป็นคู่ชกในไฟท์เปิดตัว

"โจ(สมิธ) สำหรับผมแล้วมันไม่มีอะไรนอกจากความเคารพ เขาหมัดหนักและเป็นอดีตแชมป์โลก แต่เมื่อผมเลื่อนมาครุยเซอร์เวท ผมถามโปรโมเตอร์ถึงคู่ชกที่หนักๆในรุ่นเพื่อสร้างทางไปต่อในการชิงแชมป์โลก ผมเป็นนักสู้และไม่มีไฟท์ที่ผมหนีในอาชีพของผมและนี้ก็ไม่ต่างกัน" กิลเบอร์โต้ รามิเรซ กล่าวเพิ่มเติม