คริส ยูแบงค์ จูเนียร์ ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อเช็กสภาพร่างกาย หลังคว้าชัยชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์เหนือคอเนอร์ เบนน์ ในศึกเดือดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่ฝ่ายโปรโมเตอร์จะยืนยันว่า นักชกจากไบรท์ตันไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างที่มีข่าวลือ
ก่อนหน้านี้ เบนน์เผยกับสื่อว่าได้ยินมาว่ายูแบงค์อาจกรามหัก แต่ เบน ชาโลม โปรโมเตอร์จาก Boxxer ได้ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่า "ข่าวเรื่องกรามหักไม่เป็นความจริง คริสสบายดี และตอนนี้กำลังพักผ่อน" พร้อมเสริมว่าการตรวจร่างกายหลังชกถือเป็นมาตรการมาตรฐานที่ทำทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ศึกครั้งนี้หนักหนาสาหัสสำหรับทั้งสองคน โดยยูแบงค์ต้องอดทนลดน้ำหนักอย่างหนักเพื่อชกในพิกัดมิดเดิลเวต 160 ปอนด์ ซึ่งเป็นรุ่นที่เขาคุ้นเคยมาตลอด 13 ปีในวงการ แม้จะเคยขึ้นไปชกในรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวตมาก่อน ขณะที่เบนน์ ซึ่งเป็นอดีตนักชกรุ่นเวลเตอร์เวต ต้องรับมือกับความเสียเปรียบด้านขนาดตัว
แม้จะมีความพยายามอย่างเต็มที่ ยูแบงค์ก็ยังชั่งน้ำหนักเกินเล็กน้อยในวันแรก และต้องจ่ายค่าปรับ ก่อนทั้งสองจะผ่านการชั่งน้ำหนักรอบสองในเช้าวันแข่งขัน โดยยูแบงค์ทำได้ที่ 169.4 ปอนด์ จากกำหนดไม่เกิน 170 ปอนด์ ส่วนเบนน์ทำได้ 165 ปอนด์ สบาย ๆ จากน้ำหนักที่กำหนดไว้
ภายในสังเวียน ทั้งสองคนเปิดเกมแลกหมัดกันตลอด 12 ยก ข้อมูลจาก CompuBox ระบุว่ายูแบงค์ออกหมัดเข้าเป้า 367 ครั้ง รวมหมัดหนัก 227 ครั้ง ขณะที่เบนน์ทำได้ 215 หมัด รวมหมัดหนัก 180 หมัด โดยเฉพาะในช่วง 3 ยกสุดท้าย ยูแบงค์เดินหน้ารัวถึง 335 หมัด ขณะที่เบนน์รัว 229 หมัด
กรรมการทั้งสามคนให้คะแนนยูแบงค์ชนะเอกฉันท์ 116-112 และมีการเปิดเผยหลังไฟต์ว่ามี "เงื่อนไขรีแมตช์" ที่อาจทำให้ทั้งคู่กลับมาดวลกันอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม เอ็ดดี เฮิร์น โปรโมเตอร์ของเบนน์จาก Matchroom Boxing เปิดเผยว่า เบนน์อาจเลือกเส้นทางอื่น เช่น ลดรุ่นกลับไปที่ 147 ปอนด์เพื่อไล่ล่าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต โดยมีมาริโอ บาร์ริออส แชมป์โลก WBC เป็นเป้าหมาย