ฮิโรโตะ เคียวกูจิ อดีตแชมป์โลกในรุ่นสตรอว์เวตและจูเนียร์ฟลายเวต จากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ประกาศแขวนนวมอย่างเป็นทางการในวัย 31 ปี ปิดฉากเส้นทางกำปั้นอาชีพยาวนาน 9 ปี
เคียวกูจิ เจ้าของสถิติชนะ 19 แพ้ 3(12 KO) เปิดเผยข่าวการอำลาผ่านช่อง YouTube ของตนเองเมื่อวันพุธ โดยสวมชุดสูทอย่างเป็นทางการและกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า
“ผมตัดสินใจแล้วว่าจะรีไทร์ ขอบคุณทุกคนมากครับ ผมมีอาชีพนักมวยที่เหนือกว่าที่เคยคาดฝันไว้มาก และผมรู้สึกมีความสุขที่ได้แขวนนวม ณ จุดนี้ มันคือชีวิตที่งดงามในวงการมวย มวยคือสิ่งที่ดีที่สุด”
ภายใต้การดูแลของ ค่าย Watanabe Gym ในกรุงโตเกียว เคียวกูจิ สร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว โดยคว้าแชมป์โลก IBF รุ่น 105 ปอนด์ ในไฟต์ที่ 8 ของอาชีพ ด้วยการเอาชนะคะแนน โฮเซ อาร์กูเมโด จากเม็กซิโก และป้องกันแชมป์ได้ 2 ครั้ง ก่อนขยับขึ้นมาคว้าเข็มขัด WBA รุ่น 108 ปอนด์ ด้วยการชนะน็อก เฮกกี้ บัดเลอร์ ในยกที่ 10 เมื่อคืนวันสิ้นปี 2018 ที่มาเก๊า
เขาป้องกันแชมป์รุ่น 108 ปอนด์ได้ 4 ครั้ง รวมถึงไฟต์ที่สหรัฐอเมริกา(น็อก แอ็กเซล อรากอน ยก 5 ที่ดัลลัส) และเม็กซิโก(น็อก เอสเตบัน เบอร์มิวเดซ ยก 8 ที่กัวดาลาฮารา) ก่อนพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญในไฟต์รวมแชมป์กับคู่ปรับร่วมชาติ เคนชิโร เทราชิ ซึ่ง เคียวกูจิ แพ้น็อกในยกที่ 7 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 และเส้นทางในวงการก็ไม่เหมือนเดิมอีก
แม้จะกลับมาเก็บชัยได้บ้างในปี 2023 กับนักมวยฟิลิปปินส์ระดับรอง แต่ก็ไม่สามารถกลับไปอยู่ระดับแชมป์โลกได้อีก โดยความพยายามครั้งสุดท้ายคือการชิงแชมป์โลก WBO รุ่นฟลายเวต กับ แอนโธนี โอลาสกัวกา เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่ง เคียวกูจิ พ่ายคะแนนเอกฉันท์
หลังจากนี้ เคียวกูจิ ซึ่งเป็นศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์โอซาก้า(Osaka University of Commerce) มีแนวโน้มจะเดินหน้าทำงานด้านวิเคราะห์และพากย์มวยต่อไป
ฮิโรโตะ เคียวกูจิ คือหนึ่งในนักชกญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในทศวรรษที่ผ่านมา กับการคว้าแชมป์โลก 2 รุ่น และสร้างชื่อในเวทีสากลอย่างน่าประทับใจในระยะเวลาเพียง 22 ไฟต์อาชีพ