ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ในบ้านเกิดที่โอมาฮา รัฐเนบราสกา ด้วยขบวนพาเหรดที่มีผู้มาร่วมงานกว่า 100,000 คน เทอเรนซ์ ครอว์ฟอร์ด แชมป์โลก 4 สถาบันหลัก รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวตคนใหม่ กลับถูกออกใบสั่งข้อหาขับรถประมาท และถูกตำรวจเรียกตรวจเพราะมีอาวุธปืนถูกกฎหมายอยู่ในรถ
จอห์น ดับเบิลยู. ยูอิง นายกเทศมนตรีโอมาฮา และ ท็อดด์ ชมาเดอเรอร์ ผู้บัญชาการตำรวจ ได้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ และสั่งให้มีการสอบสวนภายใน ตามคำแถลงที่ออกโดยตำรวจ
ครอว์ฟอร์ด ซึ่งมีอายุครบ 38 ปีในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพิ่งนั่งรถแห่ไปตามท้องถนนในเมืองเมื่อวันเสาร์ และได้กล่าวอย่างซาบซึ้งถึงแม่และยายของเขาบนเวทีระหว่างงาน ขบวนพาเหรดครั้งนี้จัดขึ้นหลังจากเขาโชว์ฟอร์มสุดยอด เอาชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์เหนือ ซาอูล “คาเนโล” อัลวาเรซ จากเม็กซิโก ที่ลาสเวกัส เมื่อสองสัปดาห์ก่อน คว้าแชมป์โลก 4 สถาบันหลักในเวลาเดียวกันเป็นสมัยที่ 3 และเป็นแชมป์โลก 5 รุ่น โดยในวันชก เขายังใส่ฟันยางที่มีตัว “N” สีแดง อันเป็นสัญลักษณ์ของทีมเนบราสกาอีกด้วย
ตามแถลงการณ์ของตำรวจ เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานใกล้ย่านดาวน์ทาวน์โอมาฮา พบ “รถคันหนึ่งขับขี่อย่างประมาท” จึงเรียกให้หยุดรถ เวลาประมาณตี 1 ครึ่ง(ตามเวลาท้องถิ่น)
“ขณะพูดคุยกับผู้ขับขี่ [ครอว์ฟอร์ด] เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนที่พื้นด้านฝั่งคนขับ เพื่อความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ผู้โดยสารทั้ง 4 คนลงจากรถโดยมีการเล็งปืนควบคุมสถานการณ์” ตำรวจระบุ
“หนึ่งในผู้โดยสาร ซึ่งเป็นทีมรักษาความปลอดภัยของครอว์ฟอร์ด ก็ถูกพบว่ามีอาวุธปืนถูกกฎหมายเช่นกัน ตำรวจได้ยืนยันแล้วว่าทุกคนมีสิทธิ์ครอบครองอาวุธปืนอย่างถูกต้อง”
ครอว์ฟอร์ด ได้ร้องขอให้มีหัวหน้าสถานีและรองผู้บัญชาการตำรวจมาที่เกิดเหตุ ตำรวจกล่าวเพิ่มเติม
โฆษกของ ครอว์ฟอร์ด บอกกับ BoxingScene ว่า แชมป์โลก “ยังไม่ขอให้ความเห็นใด ๆ ในตอนนี้”
ด้านนายกเทศมนตรี ยูอิง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เขาได้พูดคุยกับ ครอว์ฟอร์ด แล้ว
“ผมตระหนักดีถึงความร้ายแรงของสิ่งที่เกิดขึ้น และความเชื่อมั่นระหว่างเจ้าหน้าที่กับชุมชนของเรามีความสำคัญ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นที่เราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง” ยูอิง เขียน
“หัวใจผมแทบสลายเมื่อได้ยินว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลังจากวันที่งดงามและเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลองแชมป์โลกของเรา … มันเป็นวันที่เต็มไปด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ โอมาฮาควรจดจำวันสำคัญนี้ในด้านดี พร้อมกับหาคำตอบว่าเหตุใดจึงจบลงเช่นนี้
“เราต้องทำให้แน่ใจว่าประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร ต้องรู้สึกปลอดภัยและได้รับความเคารพใน โอมาฮา”