จอช เทย์เลอร์ อดีตแชมป์โลก 4 สถาบันหลักในเวลาเดียวกันรุ่นซูเปอร์ไลต์เวตผู้เคยสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการมวยสหราชอาณาจักร ยอมรับว่า การเสียชีวิตของ ริคกี้ ฮัตตัน เป็น “สัญญาณเตือนสำคัญ” ให้เขาต้องหันกลับมามองชีวิตหลังเลิกชกอย่างจริงจัง
เทย์เลอร์ เติบโตขึ้นพร้อมแรงบันดาลใจจาก อัตตัน เขาเคยดูฮีโร่จากแมนเชสเตอร์รายนี้โค่น คอสตยา ซู เพื่อต่อกรชิงเข็มขัด IBF 140 ปอนด์ — ความทรงจำที่ผลักดันให้เขาเดินตามรอยจนกลายเป็นแชมป์โลกไร้พ่ายคนแรกของสหราชอาณาจักรในรุ่นนี้
แต่เมื่อถึงวันที่ต้องวางนวม เทย์เลอร์ ยอมรับว่าเขาเองก็เผชิญความรู้สึกว่างเปล่าเช่นเดียวกับ ฮัตตันในอดีต
“มันเป็นบทเรียนที่โหดร้ายและไม่น่ารื่นรมย์เลยครับ” เทย์เลอร์ กล่าวกับ BoxingScene “ผมไม่อยากใช้คำว่า ‘ซึมเศร้า’ เพราะมันถูกพูดกันง่ายเกินไป แต่ตอนนั้นผมเหมือนอยู่ในหลุมดำ รู้สึกแย่ ไม่มีเป้าหมาย เหมือนชีวิตมันจบไปแล้ว”
ข่าวการเสียชีวิตของ ฮัตตัน ทำให้ เทย์เลอร์ “ตื่นจากฝันร้าย” และเริ่มตั้งสติได้อีกครั้ง
“ตอนรู้ข่าวนั้นผมถึงกับช็อกเลยครับ มันเหมือนเสียงปลุก ผมต้องเขย่าตัวเองให้ตื่นขึ้นจากสภาพนั้น”
เทย์เลอร์ เปิดใจว่า ชีวิตหลังเลิกชกไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะเมื่อการอำลามวยเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเพราะอาการบาดเจ็บที่ดวงตา
“ผมรู้ว่าช่วงปลายอาชีพใกล้เข้ามาอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะต้องหยุดแบบนี้” เขากล่าว “ผมรู้สึกเสียดายมาก เพราะไม่ได้จบแบบที่ตัวเองอยากให้เป็น”
อดีตแชมป์ผู้เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกสารภาพว่า เขาใช้เวลาช่วงแรกหลังรีไทร์อย่างยากลำบาก การฝึกซ้อมและการแข่งขันที่เคยเป็นชีวิตทั้งหมดหายไปในพริบตา เหลือเพียง “เวลา” ที่มากเกินไป
“ผมมีแต่เวลาครับ เวลาว่างเยอะเกินไปก็อันตราย มันทำให้ใจฟุ้งซ่านเหมือนที่เขาว่า ‘มือว่างคือเครื่องมือของปีศาจ’”
แม้จะยอมรับว่ายังมี “วันที่แย่” อยู่บ้าง แต่ เทย์เลอร์ เริ่มหาทางออกให้ตัวเองผ่านกิจกรรมอื่นๆ เช่น ขี่มอเตอร์ไซค์ ใช้เวลาร่วมกับภรรยาและเพื่อนเก่าสมัยเรียน ซึ่งตลอดชีวิตนักชกเขาแทบไม่เคยได้ทำเลย
“ตอนนี้ผมได้ใช้เวลากับครอบครัว ได้ไปเที่ยว ได้ทำสิ่งเล็กๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน มันช่วยเยียวยาได้เยอะครับ”
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับตรงๆ ว่าช่องว่างที่มวยทิ้งไว้ยังไม่อาจเติมเต็มได้ทั้งหมด
“อีกด้านของชีวิตมันไม่เหมือนเดิมหรอกครับ ผมไม่มีสิ่งที่ผมรักที่สุดอีกแล้ว แต่มันก็โอเค ผมจะเรียนรู้และเดินหน้าต่อไป”
แม้ เทย์เลอร์ จะเป็นนักชกสหราชอาณาจักรคนเดียวที่คว้าแชมป์โลกครบ 4 สถาบัน(Undisputed Champion) แต่เขากลับรู้สึกว่าไม่ได้รับการยกย่องเท่าที่ควร
“ผมไม่ได้สนใจมากนัก แต่ก็พูดได้ว่าผมควรได้รับการยอมรับมากกว่านี้ โดยเฉพาะตอนคว้าแชมป์โลก 4 เส้น แต่กลับไม่มีการถ่ายทอดสดในบ้านเกิดด้วยซ้ำ”
“แต่ผมก็ยังนอนหลับสบายทุกคืน เพราะรู้ว่าผมทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน”
แม้จะผ่านจุดสูงสุดของอาชีพไปแล้ว แต่เทย์เลอร์เชื่อว่าเขากำลังชนะ “ไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ในชีวิต — การต่อสู้เพื่อค้นหาความสงบหลังเสียงระฆังสุดท้าย