เบน วิทเทเกอร์ เตรียมขึ้นสังเวียนในเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ในฐานะนักชกของ Matchroom อย่างเป็นทางการ โดยจะพบกับ เบนจามิน กาวาซี ที่ NEC เมืองเบอร์มิงแฮม อังกฤษ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแผนของโปรโมเตอร์ เอ็ดดี้ เฮิร์น ที่ต้องการผลักดันเขาเป็นดาวเด่นของมวยอังกฤษ
วิทเทเกอร์ วัย 28 ปี เผยว่า Matchroom ให้สัญญามอบโอกาสขึ้นชกสูงสุดถึงสี่ไฟต์ในปี 2026 ตรงข้ามกับโปรโมเตอร์เดิมอย่าง Boxxer ที่จัดศึกเพียงไม่กี่ครั้งตลอดทั้งปี เขายังจะได้โอกาสร่วมชกบนรายการใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจย้ายค่าย
จุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางของ วิทเทเกอร์ เกิดขึ้นหลังไฟต์แรกกับ เลียม คาเมรอน ในซาอุฯ ซึ่งเขาถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการถอนตัวกลางไฟต์เพราะอาการบาดเจ็บ ก่อนจะจับมือกับ แอนดี้ ลี อดีตแชมป์โลกและหนึ่งในโค้ชดาวรุ่งที่น่าจับตาที่สุดในตอนนี้ ส่งผลให้ฟอร์มกลับมาร้อนแรงอีกครั้งในไฟต์ล้างตาที่เขาน็อกคาเมรอนยกสองแบบหมดจด
วิทเทเกอร์ เชื่อว่าการร่วมงานกับ ลี — ที่สืบสานสไตล์การชกแบบ Kronk จากยุคของ มานี สจ๊วร์ด — ทำให้เขาพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งยังได้ฝึกซ้อมร่วมกับ โจเซฟ ปาร์คเกอร์, แฮมซาห์ ชีราซ และ แพดดี้ โดโนแวน ซึ่งช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ผลักดันเขาอย่างเต็มที่
ไฟต์กับ กาวาซี ครั้งนี้อาจเป็นก้าวสำคัญสู่โอกาสพบผู้ชนะระหว่าง เคร็ก ริชาร์ดส์ – แดน อาซีซ ที่จะขึ้นชกในกานา 20 ธันวาคม ซึ่ง Matchroom วางแผนดัน วิทเทเกอร์ ขึ้นระดับท็อปของรุ่นไลต์เฮฟวีเวตภายในปีหน้า
นอกจากนี้ วิทเทเกอร์ ยังมองว่าอายุ 28 ปีของเขายังถือว่าได้เปรียบแชมป์และตัวท็อปหลายคนในรุ่น เช่น อาร์ตูร์ เบเทอร์บีเยฟ ที่อายุ 40 ปี และนักมวยระดับแถวหน้าคนอื่นๆ ที่ล้วนเลยวัยกลางสามสิบ เขามองว่าช่วงเวลาของเขากำลังมาถึง
วิทเทเกอร์ ยังพูดถึงกระแสตอบรับจากแฟนมวยทั่วโลก โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและบราซิล ซึ่งเกิดจากคลิปไวรัลบนโซเชียล ทำให้เขามีฐานแฟนขยายไปไกลกว่ายุโรป เขายอมรับว่าความโด่งดังช่วงแรกทำให้เสียสมาธิ แต่การไปฝึกซ้อมในไอร์แลนด์กับ แอนดี้ ลี ทำให้กลับมาตั้งหลักและโฟกัสกับ boxing อย่างแท้จริง
เขายืนยันว่าความขัดแย้งกับ คาเมรอน ไม่ได้หลงเหลือในใจแล้ว และยังเสนอให้คู่ปรับเก่ามาซ้อมด้วยกัน แต่ถูกปฏิเสธ พร้อมย้ำว่าการล้มเหลวครั้งนั้นเป็นบทเรียนใหญ่ที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น
ด้วยการสนับสนุนจาก Matchroom, การคุมทีมของ แอนดี้ ลี และโอกาสที่จะชิง WBC Silver ในเร็วๆ นี้ เบน วิทเทเกอร์ จึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดของรุ่น 175 ปอนด์ และกำลังจะเริ่มต้นปี 2026 ด้วยความตั้งใจขึ้นชิงแชมป์โลกให้ได้เร็วที่สุด