ข่าววงการมวยสากล มวยโลก โปรแกรมมวย ผลมวย แชมป์โลก wbc wba ibf wbo

โอชาคี ฟอสเตอร์ ประกาศชัด: เจอ ชาเคอร์ สตีเวนสัน

 

โอชาคี ฟอสเตอร์ ยังมีเวลาอีกสองสัปดาห์ในการตัดสินใจว่าเขาจะเดินหน้าต่อในพิกัดน้ำหนักใด แต่หลังจากคว้าชัยเหนือ สตีเฟน ฟูลตัน พร้อมคว้าแชมป์เฉพาะกาลแชมป์โลก WBC 135 ปอนด์มาครอง เขาก็พูดชัดเจนว่าต้องการมุ่งหน้าไปทางไหนต่อ

ฟอสเตอร์ เจ้าของสถิติ 24-3(12 KO) ยังเป็นแชมป์โลก WBC รุ่น 130 ปอนด์อยู่ด้วย ทำให้เขามีตัวเลือกมากมายหลังความสำเร็จในศึกที่ Frost Bank Center เมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

หนึ่งในตัวเลือกนั้นโดดเด่นที่สุดแบบไม่ต้องสงสัย

“ผมอยากเจอ ชาเคอร์ สตีเวนสัน” ฟอสเตอร์ กล่าวหนักแน่น “ผมพูดแบบนี้มานานแล้ว”

“แต่ดูเหมือนเขาจะขึ้นไปชกที่ 140 ปอนด์ ดังนั้นผมต้องเลือกว่าจะอยู่ที่ 130 หรือ 135 เดี๋ยวรอดูสถานการณ์แล้วค่อยตัดสินใจ”

สตีเวนสัน เจ้าของสถิติไร้พ่าย 24-0(11 KO) เป็นแชมป์โลก 3 รุ่น และครองเข็มขัด WBC รุ่นไลต์เวตตัวจริง เขาพึ่งป้องกันตำแหน่งตามข้อบังคับไปแล้ว หลังชนะคะแนน วิลเลียม เซเปด้า เมื่อกรกฎาคม ในนิวยอร์ก

ไฟต์ต่อไปของอดีตรองเหรียญเงินโอลิมปิก 2016 คือการดวลกับแชมป์โลกเชิงเส้นและ WBO รุ่น 140 ปอนด์ ทีโอฟิโม่ โลเปซ วันที่ 1 กุมภาพันธ์

สถานการณ์จึงไม่ง่ายสำหรับฟอสเตอร์ในรุ่น 135 ปอนด์ โดยเดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นมารุ่นนี้ด้วยซ้ำ จนกระทั่ง ฟูลตัน ชั่งน้ำหนักเกิน 2 ปอนด์ ทำให้ไม่มีสิทธิ์ชิงเข็มขัดของ ฟอสเตอร์

หลังจากนั้นมีรายงานว่า TGB Promotions — ผู้จัดศึกเมื่อวันอาทิตย์ — ได้ยื่นคำร้องฉุกเฉินต่อ WBC เพื่อขอให้ไฟต์ ฟอสเตอร์–ฟูลตัน กลายเป็นไฟต์ชิงแชมป์เฉพาะกาลที่ 135 ปอนด์แทน

หนทางที่ดีที่สุดของ ฟอสเตอร์ คือการรอผลไฟต์ โลเปซ–สตีเวนสัน หากแชมป์โลก WBC 135 ปอนด์ว่างลง เขาอาจถูกเลื่อนเป็นแชมป์โลกเต็มตัว กลายเป็นแชมป์โลกสองรุ่นทันที แต่เขาต้องตัดสินใจภายใน 15 วัน ซึ่งยังไม่แน่นอนเลยว่าจะเกิดขึ้นทันเวลา

ในทางกลับกัน รุ่นจูเนียร์ไลต์เวต (130 ปอนด์) กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ โดยวันที่1 มีนาคม จะมีศึกรวมแชมป์ระหว่าง เอดูอาร์โด “ชูการ์” นูเยซ แชมป์โลก IBF กับ เอมานูเอล นาวาร์เรเต้ แชมป์โลก WBO ที่เมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ฟอสเตอร์ และ นาวาร์เรเต้ อยู่ในสังกัด Top Rank ซึ่งทาง ฟอสเตอร์ ก็็เคยร่วมงานกับ Matchroom ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์ร่วมของ นูเยซ ทำให้มีโอกาสไล่ล่าแชมป์ได้ทั้งสองทาง

ฟอสเตอร์ เคยบอกไว้ว่าพร้อมจะอยู่ต่อในรุ่น 130 ปอนด์ เพราะเป็นเส้นทางที่เร็วที่สุดสู่การเป็น แชมป์โลก 4 สถาบันหลักในเวลาเดียวกัน

“เรื่องอยู่รุ่น 130 มันขึ้นอยู่กับโอกาส” ฟอสเตอร์ กล่าว “ถ้ามีอะไรดี ๆ โผล่ขึ้นมาที่ 135 เราก็พร้อมขยับขึ้นไปทันที

“เราไม่ได้รีบขึ้นรุ่น แต่ผมอยากให้เส้นทางอาชีพเดินหน้าต่อไป หลังจากนี้เราทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว และตอนนี้ถึงเวลาล่าเข็มขัดเส้นอื่นๆ ต่อไป”