บรูซ คาร์ริงตัน ไม่จำเป็นต้องรอเกินไฟต์ถัดไปเพื่อยกระดับเข็มขัดแชมป์ WBC รุ่นเฟเธอร์เวต 126 ปอนด์ จากตำแหน่งแชมป์เฉพาะกาลขึ้นเป็นแชมป์โลกเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องพิสูจน์ตัวเองบนสังเวียนเสียก่อน
BoxingScene ยืนยันว่า ไฟต์ระหว่าง คาร์ริงตัน กับ คาร์ลอส คาสโตร จะมีเข็มขัดแชมป์โลก WBC รุ่นเฟเธอร์เวตที่ว่างอยู่เป็นเดิมพัน โดยจะชกกันในรูปแบบ 12 ยก เป็นหนึ่งในคู่ประกอบรายการไฟต์ ทีโอฟิโม โลเปซ พบ ชาเคอร์ สตีเวนสัน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถ่ายทอดสดแบบ PPV ทาง DAZN จากเมดิสัน สแควร์ การ์เดน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
คาร์ริงตัน เจ้าของสถิติชก 16 ไฟต์ชนะทั้ง 16 ไฟต์ ปัจจุบันครองแชมป์เฉพาะกาลแชมป์โลก WBC รุ่นเฟเธอร์เวต โดยแชมป์โลกตัวจริงคนก่อนคือ สตีเฟน ฟูลตัน ตัดสินใจสละตำแหน่งไม่นานหลังจากแพ้ให้กับ โอชากี ฟอสเตอร์ ในไฟต์ที่เขามีผลการชั่งก่อนชกเกินพิกัดไปมาก
การที่ ฟูลตัน ไม่ผ่านการชั่งน้ำหนักในพิกัดซูเปอร์เฟเธอร์เวต 130 ปอนด์ มันชัดเจนว่าเขาคงไม่สามารถกลับมาชกในรุ่นเฟเธอร์เวตได้อีก
ตามปกติ สถานการณ์เช่นนี้มักทำให้แชมป์เฉพาะกาลได้รับการเลื่อนสถานะเป็นแชมป์โลกตัวจริงโดยอัตโนมัติ แต่ครั้งนี้ WBC เลือกประกาศให้ตำแหน่งแชมป์โลกว่าง และนำมาชิงกันในคู่ที่ตกลงไว้แล้วระหว่าง คาร์ริงตัน กับ คาสโตร
สำหรับ คาร์ริงตัน นักชกจากบรูคลิน ไฟต์นี้เปรียบเสมือนการชกในบ้านของตัวเอง และจะเป็นการขึ้นชกในสังเวียนที่อยู่ภายใต้เครือ MSG เป็นครั้งที่ 7 ในอาชีพ โดยไฟต์ล่าสุดของเขาจัดขึ้นที่ MSG Theater ซึ่งเขาเอาชนะคะแนน มาเตอุส เฮต คว้าแชมป์ WBC แชมป์เฉพาะกาล รุ่นเฟเธอร์เวตมาได้
ไฟต์ดังกล่าวยังเป็นคู่รองในรายการสุดท้ายของ Top Rank บนสถานี ESPN ปิดฉากสัญญาความร่วมมือยาวนาน 7 ปี แม้ Top Rank จะยังไม่ได้แพลตฟอร์มถ่ายทอดใหม่อย่างเป็นทางการ แต่ก็ยังสามารถจัดโอกาสให้กับนักชกในสังกัดอย่าง คาร์ริงตัน ได้เป็นระยะ
ด้าน คาร์ลอส คาสโตร สถิติ 30-3(น็อก 14) จะได้ขึ้นชิงแชมป์โลกสถาบันหลักเป็นครั้งแรกในอาชีพ แม้จะไม่ใช่มือใหม่ในระดับแถวหน้าของรุ่นก็ตาม
นักชกจากเมืองฟีนิกซ์ ซึ่งมีพื้นเพจากเม็กซิโก เคยเผชิญหน้ากับอดีตแชมป์โลกมาแล้วถึง 3 คน และนั่นก็เป็นที่มาของความพ่ายแพ้ทั้งสามครั้งในอาชีพ โดยทั้งหมดเป็นไฟต์ที่ไม่มีแชมป์เป็นเดิมพัน
เขาเคยแพ้คะแนนแบบไม่เอกฉันท์ให้กับ หลุยส์ เนรี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งการถูกนับตั้งแต่ยกแรกกลายเป็นจุดชี้ขาดบนใบคะแนน จากนั้นในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน เขาถูก แบรนดอน ฟิเกโรอา น็อคในยกที่ 6 ระหว่างช่วงที่ ฟิเกโรอา ขยับรุ่นจาก 122 ปอนด์ไป 126 ปอนด์
คาสโตร กลับมาเก็บชัยชนะได้ 3 ไฟต์ติดต่อกัน ก่อนขึ้นชกไฟต์ล่าสุด ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเขาน่าเสียดายที่ไม่ได้รับการตัดสินให้เป็นผู้ชนะในไฟต์พบกับ ฟูลตัน เมื่อวันที่ 14 กันยายน ปีที่แล้ว ที่ลาสเวกัส ในการชก 10 ยก
ในไฟต์นั้น คาสโตร เป็นฝ่ายชก ฟูลตัน ร่วงในยกที่ 5 แต่สุดท้ายคาสโตรกลับแพ้คะแนนไป 2 จาก 3 เสียง
ความพ่ายแพ้ดังกล่าวส่งผลอย่างมาก เพราะเป็น ฟูลตัน ได้โอกาสขึ้นชิงและคว้าแชมป์โลก WBC รุ่นเฟเธอร์เวตในไฟต์ถัดมา
แม้จะไม่ได้ขึ้นชกนับตั้งแต่นั้น แต่ คาสโตร ก็ยังรักษาสถานะผู้ท้าชิงเอาไว้ได้ จนกระทั่งจังหวะและโอกาสมาบรรจบกันพอดี ทำให้เขาได้ขึ้นชิงแชมป์โลกในครั้งนี้